ในห้วงวันที่ 10 ต.ค.59 ถึง 21 ต.ค.59 เว้นวันเสาร์ - อาทิตย์ สรุปว่าฝึก ศึกษา เป็นเวลา 10 วัน
วันละ 8 ชม. เริ่มตั้งแต่ 08.00 - 1200 ในรอบเช้า และ 1300 - 1700 ในรอบบ่าย
ปีการศึกษา 2559 ได้รับเกียรติ ให้เป็นหัวหน้าชุดครูฝึกชั้นปีที่ 4 อีกครั้งหนึ่ง
แปลความง่ายๆ ผมเป็นครูประจำชั้นอีกแล้ว
ในปีนี้ มี นศท.สมัครเข้ารับการฝึกในชั้นปีที่ 4 เยอะพอควร
นศท.ชาย 299 นาย
นศท.หญิง 152 นาย
ตามระเบียบของการฝึก/เรียน นศท.มีข้อกำหนดไว้เยอะแยะ เช่น...
*นศท. มีคะแนนความประพฤติคนละ 100 คะแนน ใครที่ถูกตัดคะแนน เกิน 50 คะแนน
ไม่มีสิทธิ์สอบภาคปฎิบัติและภาคทฤษฎี (เท่ากับ สอบตก)
*ผู้มีสิทธิเข้าสอบภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ
จะต้องมีเวลารับการฝึก/เรียน ครบ 80 ชั่วโมง
ฉะนั้น ถ้าขาดเรียน 4 ครั้ง จะถูกตัดคะแนนความประพฤติ 60 คะแนน หมดสิทธิ์สอบ
ในห้วงเดือนตุลาคม สถาบันอุดมศึกษาส่วนใหญ่กำลังสอบกลางภาค จึงเกิดปัญหาขึ้นสำหรับ นศ.ที่ต้องเข้ารับการฝึก นศท.ด้วย
นศท.ไม่มาฝึก ครูฝึกบอกว่าขาด ต้องตัดเวลาเรียน และตัดคะแนนความประพฤติ (นศท.ร้อง จ๊ากก)
นศ.ไม่เข้าสอบกลางภาคตามเวลาที่กำหนด อาจารย์บอกว่า ไม่มีคะแนนในรายวิชานั้น
ฉันจำเป็นต้องให้เธอตกแน่นอน (นศ.ร้องจ๊ากกก)
วงจรชีวิต ของ นศ.+ ชีวิต นศท. วุ่ยวายดีแท้ ซึ่งเป็นไปตามข้อกำหนดของมหาลัย และ ศฝ.นศท.
ครูฝึก นศท. บอกว่า "ช่วงเช้า มาฝึก นศท.ก่อน แล้วช่วงบ่ายจะให้ลาไปสอบ ทำได้ไหม?"
อจ.ที่ ม.บอกว่า "ฉันมีเวลาให้เธอแค่ 0900-1100 เท่านั้น ตอนบ่ายฉันมีงานต้องทำอีกเยอะ"
นศ.บอกว่า "เวรกรรมมีจริงว่ะ มันมาชนกันแบบนี้ เป็นกรรมของกูจริงๆ"
ครูประเคียง เคยแนะนำว่า "อย่าปล่อยให้ชีวิตล่องลองไปตามโชคชะตา เราเป็นมนุษย์ที่มีอาระยธรรม
เราต้องลิขิตชีวิตของเราเอง"
นศท.บ่นว่า "มหาลัย กับ ศูนย์ฝึก เอาเวลาของชีวิตผมไปหมดแล้ว
เหลือวินาทีไหนที่ผมจะลิขิตชีวิตตัวเองได้บ้างล่ะครับ"
ครูประเคียง ขอแนะนำอย่างนี้นะ "ต.ค.นี้ เราอาจจะลิขิตชีวิตตัวเองไม่ได้ ก็ปล่อยมันไป
ไว้ปีหน้า ปี 60 หรือปี 61 ก็ได้ วางแผนซะตั้งแต่ต้นปีการศึกษาเลย "
555 หมายความว่า ยอมสอบตก นศท.ซักปี 2 ปี ชีวิตคงจะราบลื่นขึ้นนะ
นศท.กลุ่มนี้ จะมีความรู้สึกกังวล ห่วงหน้า พะวงหลัง ล้วนแล้วแต่เป็นเด็กเรียน
แน่นอนเกรดผลการเรียนออกมาดีตลอด
ยังมี นศท.อีกกลุ่มหนึ่ง ซึ่ง อจ.ที่มหาลัย ได้ดำเนินการสอบเก็บคะแนนเสร็จเรียบร้อยแล้ว
เห็นเพื่อนๆขอลาจากการฝึก ไปสอบที่มหาลัย ครูฝึกก็อนุญาตโดยไม่ซักถามอะไรมากมาย
สามารถออกจากศูนย์ฝึกได้ ไม่ต้องฝึก ไม่ต้องตากแดด ตากฝน แล้วเราจะทนตากแดดตากฝนไปเพื่ออะไร
ความคิดบรรเจิดเกิดขึ้น ลงมือเข้าสู่ขั้นตอนการปฏิบัติ
"ครูฝึกครับ อจ.ไลน์มาว่า ผมไม่ผ่าน 2 วิชาครับ ให้ผมไปสอบแก้บ่ายนี้ครับ"
"ครูครับ มหาลัยแจ้งในเฟสว่า ให้ผมไปกรอกเอกสาร กยศ.บ่ายนี้ครับ"
"ครูครับ ที่หอมีปัญหา อจ.ที่ควบคุมหอพักโทรมาว่าให้ไปเปิดหอพักเพื่อค้นหาอะไรสักอย่าง ตอนนี้ครับ"
"ฯลฯ"
ฉลาดหลักแหลมดีแท้ มีช่องว่างเพียงแค่นิดเดียว พวกเขา/เธอ สามารถเอาช้างทั้งโขลงผ่านไปได้อย่างสบาย
สรุปว่า จากจำนวน นศท.451 นาย
ยอดเข้ารับการฝึกสูงสุด 339 นาย
ยอดต่ำสูด 223 นาย
มองในแง่ร้าย
- สิทธิ อยากได้ แต่ หน้าที่ ไม่ทำ
- อยากเป็นเหมือนคนอื่น แต่ ไม่อยากเหนื่อยเท่าคนอื่น
- ความเสียสละ มีน้อย ความเห็นแก่ตัว มากกว่า
- อ่อนแอ ไร้วินัย
มองในแง่ดี
- รู้จักเอาตัวรอด ในสถานการณ์ที่ลำบาก
- เป็นไปตามหลักถนอมกำลัง ตามยุทธวิธีของทหาร
- รู้จักใช้เล่ห์เหลี่ยม แก้ปัญหาอุสรรค
ในฐานะครูประจำชั้น
- รู้สึกผิดหวัง เมื่อเทียบกับเป้าหมายที่คาดไว้
- คงต้องสร้างจิตสำนึกต่อหน้าที่ และความรับผิดชอบให้เข้มข้นมากยิ่งขึ้น
- ศูนย์ฝึก กับมหาลัย ต้องประสานการปฏิบัติให้ได้มากกว่าที่เป็นอยู่
- คนทุกวัย สอนได้ เรียนรู้ได้ โดยผู้มีความรู้และประสบการณ์
- ผลประโยชน์ส่วนรวม ต้องมาก่อนเสมอ
- กฎ ระเบียบ ที่ได้รับการยอมรับแล้ว จะต้องไม่อ่อนตัวเพื่อใครอีก
***