คำว่าผีบุญคือ
“พวกย่ำยีพระธรรมวินัย
บิดเบือนพระธรรมคำสั่งสอนของพระบรมศาสดา
สอนให้ซื้อบุญ บ้าบุญ ซื้อสวรรค์ บ้าสวรรค์
ซ่องสุมกำลังถึงขั้น ยึดสำนักงานพระพุทธศาสนา
แห่งชาติ
มหาเถรสมาคมและกำลังจะตั้ง
สังฆราชขึ้นในกลุ่มของตัวเอง”
กบฏผีบุญในครั้งแรกต่อเนื่องมาจากปลายสมัยธนบุรี
ยังไม่ถึงขั้นซ่องสุมกำลังผู้คน
เพราะแค่อยู่ในขั้นก่อตัว คือบิดเบือนพระธรรมวินัย
ดังนั้นเมื่อพระปฐมบรมกษัตริย์
ทรงปราบดาภิเษกแล้ว จึงโปรดให้ชำระสะสางกิจการพระศาสนาถึงขนาด
ถอดสมเด็จพระสังฆราชที่ไม่ซื่อตรงต่อพระธรรมวินัยออกจากตำแหน่ง
แล้วทรงสถาปนาพระสี ขึ้นเป็นที่สมเด็จพระสังฆราชพระองค์แรกแห่งกรุงรัตนโกสินทร์
โปรดให้สถิตที่วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร
ครั้งที่ 2 กบฏผีบุญลุกลามขยายตัวขึ้น
มีการซ่องสุมกำลังถึงขั้นจะยึดเอาบ้านเอาเมือง พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 จึงทรงโปรดให้ปราบปรามอย่างเฉียบขาด
และจับกุมหัวโจกกบฏผีบุญประหารชีวิต
มาถึงทุกวันนี้ก็เกิดกบฏผีบุญขึ้นเป็นครั้งที่
3 และต้องถือว่าเป็นครั้งใหญ่ที่สุด
และก่อให้เกิดความเสียหายมากที่สุด ถ้าหากไม่ล่มสลายหรือถูกปราบปรามเสียก่อน
ก็จะถึงขั้นยึดบ้านยึดเมือง
ล้มล้างสถาบันต่าง ๆ อย่างไม่ต้องสงสัย
จึงเป็นหน้าที่ของ พล.อ.ประยุทธ
ในสถานะ นายกรัฐมนตรี ต้องกำจัดขบวนการผีบุญ
ยุคดิจิทัล 4 G ให้สิ้นซาก
แต่ผีบุญยุคปัจจุบันใช่จะกำจัดได้ง่ายๆซะที่ไหน ขนาดคำสั่งหัวหน้า คสช.
อาศัยอาญาสิทธิ์ ม.44 ซึงได้กำเนินการมาแล้ว 8 วัน ภายใต้การนำของ
กรมสอบสวนคดีพิเศษ ยังหาตัวหัวหน้าผีบุญ 4 G
ไม่พบแม้แต่รอยเท้า
หลวงปู่ทวด ที่ว่าหายากแล้ว เซียนพระอย่าง พล.อ.ประยุทธ์
ยังหามาคล้องคอได้โดยไม่ยาก หากแต่ พระธัมมชโย มีใครได้พบได้เห็นบ้างเล่า
หลวงพ่อธัมมชโยจึงเป็นพระที่หายากที่สุดในยุคนี้