ทำไมจึง เกิดเหตุการดราม่า หรือ ทัวร์ ในโซเชียล
คนเราส่วนใหญ่มักจะแสวงหาแต่ข้อมูลที่รองรับกับความเชื่อที่เรามีอยู่แล้วตั้งแต่ต้นเท่านั้น
ส่วนข้อมูลที่ขัดกันกับความเชื่อที่เรามีอยู่แล้ว เรามักเลือกที่จะไม่อ่านมัน ไม่รับมัน
เพราะการรับข้อมูลที่ขัดกันกับความเชื่อที่เรามีอยู่มักจะก่อให้เกิด ความรู้สึกไม่สบายใจ
จากการมีข้อมูลที่ขัดแย้งกันในหัวของเรา
ด้วยกลไกอัลกอริทึมของโซเชียลมีเดีย เช่น Facebook หรือ Twitter ทำให้เราได้สัมผัส
กับความคิดเห็นของคนอื่นที่ตรงกันกับเราเพียงแค่อย่างเดียว มันทำให้เราเสพแต่ข่าว
ที่รองรับความเชื่อและความรู้สึกที่เรามีอยู่ตั้งแต่ต้นแล้ว ทั้งนี้ก็เป็นเพราะว่ากลไกอัลกอริทึม
ของโซเชียลมีเดียจะคัดเลือกในแต่ละสิ่งที่มันคิดว่าเราอยากจะเสพ อยากจะอ่าน มาให้เราเท่านั้น
(เช่น ถ้าเราคลิกดูวิดีโอแมวไปหนึ่งครั้ง เราก็จะเห็นว่า Facebook มักจะนำวิดีโอแมวอื่นๆ
มาแนะนำให้เราคลิกดูต่อไปเรื่อยๆ
)
จึงไม่แปลกเลย ที่เราแทบจะไม่เคยเห็นโพสต์ของคนที่คิดต่างจากเราใน Facebook News Feed
จึงไม่แปลกเลย ที่เราคิดว่าคนส่วนใหญ่คิดเหมือนกันกับเรา
เราอาจจะคิดว่าคนที่คิดต่างจากเรานั้นเป็นคนโง่ และที่เราคิดว่าเขาโง่ก็เพราะเราคิดว่าพวกเขา
เห็นข้อมูลเดียวกันกับที่เราเห็น แต่เขาก็ยังไม่ตาสว่างสักที ทว่าในความเป็นจริงนั้น
กลไกของโซเชียลมีเดียทำให้เขาไม่เห็นในข้อมูลที่เราเห็น ส่วนตัวเราเองก็ไม่เห็น
ในข้อมูลอีกด้านหนึ่งที่เขาเห็นเช่นเดียวกัน
มาเป็นน้ำครึ่งแก้ว กันเถอะ
ทางออกทางหนึ่ง คือเราอาจจะต้องลองคลิกไปอ่านในสิ่งที่เราไม่อยากจะอ่านบ้าง
เลือกติดตามคนที่เราไม่เห็นด้วยบ้าง เลือกที่จะไปเข้ากลุ่มกับคนที่คิดต่างกับเราเยอะๆ บ้าง
จะช่วยทำให้เราฝึกการเอาใจเขามาใส่ใจเรา ได้ เพราะ น้ำครึ่งแก้ว จะสามารถช่วยคนเรา
เข้าใจความรู้สึกนึกคิดของคนในสังคมได้
Cr.
ณัฐวุฒิ เผ่าทวี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น